ReadyPlanet.com
dot


ไวรัสโคโรน่า จะระบาดน้อยลงในช่วงหน้าร้อน หรือไหม


 

ไวรัสโคโรน่า จะระบาดน้อยลงหรือไม่ ชวนหาคำตอบว่าอุณภูมิสูงในช่วงหน้าร้อน จะช่วยฆ่าเชื้อ ไวรัสโคโรน่า ให้ตายเร็วขึ้นหรือไม่ หรือจะช่วยให้ยับยั้งหรือชะลอการระบาดน้อยลง

การแพร่ระบาดของ ‘ไวรัสโคโรน่า’ สายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศไทยก็ยังพบการระบาดอย่างงต่อเนื่อง แต่ที่น่าดีใจคือพบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อมีจำนวนลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ล่าสุด.. ศบค. ออกมาแถลงข่าววันนี้ (13 เม.ย.) ว่าไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มเพียง 28 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 2,579 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รักษาหายป่วยและกลับบ้านแล้วรวมทั้งหมด 1,288 ราย ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่ ศบค.แถลงในวันนี้ มีจำนวนลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 5 แล้ว

มีข้อมูลจาก รองศาสตราจารย์ ดร. วราฤทธิ์ พานิชกิจโกศลกุล อาจารย์ประจำสาขาวิชาคณิตศาสตร์และสถิติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. (SCI-TU) ที่ได้อธิบายเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 (COVID-19) ในประเทศไทยพบอัตราการติดเชื้อ “โคโรน่าไวรัส”  ในเดือนมีนาคม มีจำนวนเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อรายใหม่ 19.2% ต่อวัน แต่ในเดือนเมษายนพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือเพียง 4.8%ต่อวัน

แม้ว่าปัจจัยเรื่อง “พฤติกรรมของบุคคล” จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ยังมีปัจจัยรองอย่างเรื่องอุณหภูมิสูงใน “หน้าร้อน” ที่หลายคนมองว่า อาจจะ ส่งผลต่อการยับยั้งการแพร่ระบาดของ “โคโรน่าไวรัส” ที่แขวนลอยอยู่ในอากาศทั่วไปให้ลดจำนวนลงได้ เพราะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่าเชื้อไวรัสจะตายเมื่อโดนความร้อน

แต่เรื่องนี้ก็ฟันธงลงมาชัดๆ ไม่ได้ มีข้อมูลวิชาการจากหลากหลายแหล่งออกมายืนยันว่าสภาพอากาศร้อนใน “หน้าร้อน” ช่วงนี้ของประเทศแถบเอเชีย อาจจะไม่มีผลต่อการยับยั้งหรือชะลอการระบาดของโควิด-19 เนื่องใจากโรคระบาดนี้เป็นโรคอุบัติใหม่ แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ยังคงต้องศึกษาไปพร้อมๆ กับสถานการณ์รายวัน

ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO)  เตือนว่าการแพร่ระบาดของ “โคโรน่าไวรัส” สายพันธุ์ใหม่ ต้นตอเกิดโรคโควิด-19 ในภูมิภาคแปซิฟิกยังไม่จบสิ้นลง และการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 อาจจะต้องกินเวลาไปอีกนาน ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าปัญหาการระบาดใหญ่ทั่วโลกนี้จะดำเนินต่อไปอีกนานเท่าไหร่ รวมทั้งไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นในช่วงหน้าร้อนจะทำให้อัตราการระบาดลดลงเหมือนที่หลายคนคาดหวังไว้

WHO ยืนยันว่า “โคโรน่าไวรัส” สามารถแพร่กระจายได้ทั้งในที่อากาศร้อนชื้น และในอากาศแห้งและหนาว แต่ไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหนและในสภาพอากาศแบบใด สิ่งสำคัญคือปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยที่ดี ล้างมือบ่อยๆ ปิดปากเวลาไอหรือจามด้วยทิชชู่หรือข้อพับแขนด้านใน หลังจากทิ้งทิชชู่แล้วต้องล้างมือทันทีทุกครั้ง

ในทำนองเดียวกันกับ Sugiyono Saputra นักวิจัยด้านจุลชีววิทยาของสถาบันวิทยาศาสตร์อินโดนีเซีย อธิบายว่า “มันง่ายเกินไปที่จะบอกว่าภูมิอากาศแบบเขตร้อนสามารถหยุด “โคโรน่าไวรัส” ได้เพราะมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การติดเชื้อจากมนุษย์สู่มนุษย์ด้วยกันในพื้นที่แออัด ปัจจัยนี้เองที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ส่วนปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมอาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อไวรัสเลยก็เป็นได้”

แต่ในอีกด้านหนึ่ง นักวิทยาศาสตร์บางคนมองว่าปัจจัยเรื่องอุณหภูมิสูงใน “หน้าร้อน” อาจจะช่วยยับยั้งหรือช่วยฆ่าไวรัสในอากาศได้ โดยนายแพทย์ วิลเลียม ชาฟเนอร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ จากมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา เขาคิดว่าช่วงอากาศร้อนของซัมเมอร์นี้อาจพอมีหวังเล็กน้อยว่ามันอาจจะช่วยยับยั้งไวรัสได้

นายแพทย์ วิลเลียม ชาฟเนอร์ อธิบายอีกว่า การแพร่กระจายของไวรัสทางเดินหายใจบางชนิด เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยทั่วไปจะมีจำนวนลดลงในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงและอุณหภูมิสูง ไม่ชัดเจนว่าทำไมอุณหภูมิและความชื้นจึงมีผลกระทบต่อไวรัสไข้หวัดใหญ่หรือไวรัสตามฤดูกาลอื่นๆ แต่ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเมื่อคุณหายใจออกไวรัสเหล่านั้นจะถูกห่อหุ้มด้วยละอองไอน้ำทรงกลมขนาดจิ๋ว (ดูได้จากกล้องจุลทรรศน์เท่านั้น) แล้วถูกปล่อยออกสู่อากาศภายนอกผ่านทางลมหายใจออกดังกล่าว

อีกทั้ง มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์พบว่าการแพร่เชื้อของไข้หวัดใหญ่จะลดลงสู่ระดับที่ต่ำมาก

ในช่วงฤดูร้อน ดังนั้น ผู้คนส่วนใหญ่มักจะไม่กังวลเกี่ยวกับการติดไข้หวัดมากนักเมื่อเข้าสู่ช่วง “หน้าร้อน” ของแต่ละปี

แต่ก็อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า นี่เป็นเพียงสมมติฐานจากการเปรียบเทียบกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แต่ไม่ใช่กับ “โคโรน่าไวรัส” สายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ เนื่องจาก “โคโรน่าไวรัส” มีการแพร่ระบาดที่รุนแรงและกว้างขวางมากกว่าไวรัสไขหวัดใหญ่ ดังนั้น เราทุกคนจึงยังต้องเฝ้าระวังและต่อสู้กับโรคโควิด-19 กันต่อไป อย่านิ่งนอนใจ ไม่ว่าอากาศร้อนจะมีผลต่อการชะลอการแพร่ระบาดของ “โคโรน่าไวรัส” หรือไม่ควรเปลี่ยนมาทักทายกันด้วยการไหว้ โบกมือ พยักหน้า หรือโค้งให้กันแทน

วันนี้ (14 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แถลงถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ณ ทำเนียบรัฐบาล ว่า

ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ป่วยเพิ่ม 34 คน ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยสะสม 2,613 คน กระจายใน 68 จังหวัดทั่วประเทศ รักษาหายแล้ว 1,405 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 41 ราย

ขณะนี้เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีการระบาดใหญ่ (Pandemic) ไปทั่วโลก (ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก, 11 มีนาคม 2563) ขอให้ประชาชน และผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้ความร่วมมือ และปฏิบัติตามคำแนะนำต่างๆ เพื่อความปลอดภัยทั้งของตนเองและผู้อื่น รวมทั้งลดผลกระทบในด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยได้กำหนดเขตติดโรคติดต่ออันตราย ได้แก่ จีน (รวมมาเก๊า ฮ่องกง) เกาหลีใต้ อิหร่าน และอิตาลี

thaihotnew.com/



Post by Milinsom :: Date 2020-04-15 13:06:09 IP : 49.228.177.215


[1]

Opinion No. 1 (4169921)

 

ยิงปลา

สล็อต

สูตรบาคาร่า

@Lineกดเลย

By aaaa (anuchapronsuda-at-gmail-dot-com)Date 2020-09-28 17:03:23 IP : 58.11.25.153



[1]


Opinion
Opinion *
By  *
E-Mail *
Don't Display E-mail



Copyright © 2010 All Rights Reserved.